ผ้ายันต์ หลวงปู่โส กสฺสโป วัดป่าคำแคนเหนือ ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น น้อมถวายบูชาพระคุณในมงคลสมัยอายุครบ 83 ปี (8 พฤศจิกายน 2541)
ประวัติหลวงปู่พระมหาโส กัสสโป
อดีตเจ้าอาวาส วัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
คัดลอกจากเวบพลังจิต http://palungjit.org/threads/ประวัติหลวงปู่พระมหาโส-กัสสโป.185179/
หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป นามสกุลเดิม ดีเลิศ เกิดเมื่อวันที่ วันจันทร์ ที่ ๘ พ.ย. ๒๔๕๘ เวลาตี ๒ (ตรงกับวันเพ็ญ เดือน ๑๒ ปีเถาะ)
สถานที่เกิด : เกิดที่ บ้านก่อ ต.หนองไข่นก อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี (บ้านเดียวกับพระอาจารย์บุญ ปัญญาวุโธ พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม และหลวงปู่พระมหาสีทน กาญจโน) โยมบิดาชื่อ เคน โยมมาดาชื่อ ค้ำ มีอาชีพทำนา ท่านมีพี่น้องร่วมบิดามารดา ๙ คน คือ
๑. นางพิมพา
๒. นางทุมมา
๓. นางสีทา
๔. นางสีดา
๕. นางทองสา
๖. หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป
๗. นายพรหมมา อดีตผู้ใหญ่บ้านบ้านก่อ
๘. นางวรรณา
๙. นายสง่า ดีเลิส อดีตสหกรณ์อำเภอม่วงสามสิบ
บรรพชา
ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ เมื่อมีอายุ ๑๙ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณรกับหลวงปู่อุปัชฌาย์อ่อน ที่วัดบ้านก่อ (บ้านเกิดท่าน) เป็นการบวชหน้าไฟให้โยมมารดาซึ่งถึงแก่กรรมลง ตั้งใจจะบวชเพียง ๑ พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ครบกำหนดแล้ว ก็ทำความรู้ในพระธรรมวินัยด้านปริยัติจนแตกฉาน สอบได้ นักธรรมตรี นักธรรมโท และนักธรรมเอก ติดต่อกันมาทุกปี จนทำให้มีศรัทธาบวชต่อ
อุปสมบท
ถึงปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุครบ ๒๐ ปี ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาที่วัดบ้านเกิดนั่นเอง โดยมีพระอุปัชฌาย์อ่อน เป็นพระอุปัชฌาย์และพระอาจารย์สุ่น เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และได้จำพรรษาอยู่ที่นั่น เป็นเวลา ๓ พรรษา
ญัตติเป็นธรรมยุติ
ล่วงเข้าปี พ.ศ.๒๔๘๐ ท่านได้กราบลาพระอุปัชฌาย์อ่อนออกเดินทางติดตามพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน (ซึ่งเป็นญาติกันด้วย) โดยมีจุดหมายปลายทางที่ จ.อุดรธานี เมื่อเดินทางถึง จ.อุดรธานี หลวงปู่พระมหาสีทนได้นำท่านไปญัตติเป็นพระธรรมยุต ในวันที่ ๑๗ ก.ค.๒๔๘๐ ณ วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยมี ท่านเจ้าคุณพระเทพกวี (จูม พนฺธุโล) ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระธรรมเจดีย์ เป็นพระอุปัชฌาย์ มีพระครูสาสนูปกรณ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูประสาทคณานุกิจ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อญัตติแล้วได้จำพรรษาอยู่ที่วัดโพธิสมภรณ์ ๑ พรรษา ซึ่งท่านตั้งใจไว้ว่าหากการไปในครั้งนี้ไปแล้วได้กำลังใจดีในการปฏิบัติธรรมจะขอบวชตลอดชีวิต
เป็นมหาเปรียญ
หลวงปู่พระมหาโส เป็นพระผู้เคร่งครัดในพระธรรมวินัยปฏิบัติตามคำสอนขององค์ศาสดามาโดยตลอด ท่านแสวงธรรมทั้งในด้าน ปริยัติ (แสวงหาความรู้) ปฏิบัติ (แสวงธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้า) ปฏิเวธ (แสวงหาธรรมด้วยปัญญาของตนเองเพื่อแสวงหาวิโมกติสุข) ถึงเวลาต่อมาในพรรษาที่ ๑๒ ท่านก็ได้แตกฉานบาลี จนสอบเปรียญธรรมสนามหลวงเป็น "พระมหา" ได้สำเร็จ และในปีเดียวกันก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสที่วัดศรีหมากหญ้า อ.เมือง จ.อุดรธานีด้วย
แต่เป็นเจ้าอาวาสอยู่ได้เพียง ๔ ปี หลวงปู่มหาโส ก็สละตำแหน่งเจ้าอาวาส และออกธุดงค์ต่อเพื่อแสวงหาสิ่งที่เรียกว่า "พ้นจากวัฏสงสาร" อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาต่อไป
ประวัติอื่นๆ
หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป เป็นศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น และเป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงปู่ผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขต (ผู้คนส่วนใหญ่จะคิดว่าท่านเป็นศิษย์หรือสหธรรมิกของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต แต่ที่จริงไม่ใช่เพราะถ้านับพรรษาหลวงปู่มหาโสพรรษามากกว่าหลวงปู่ผางถึง ๑๐ ปี เพราะหลวงปู่ผางท่านอุปสมบทตอนอายุ ๔๐ ปี) ในขณะที่หลวงปู่ผางมีชื่อเสียง ผู้คนรู้จักนั้น หลวงปู่มหาโสยังคงธุดงธ์แสวงวิเวกอยู่ในป่าอยู่
ท่านนับเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกรูปหนึ่งชึ่งผู้คนยังไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าใด เพราะปฏิปทาท่านชอบบำเพ็ญหาความสงบทางจิตในป่ามาแต่ไหนแต่ไรแล้ว นับตั้งแต่อายุ ๗๐ ปี หลวงปู่พระมหาโสก็ไม่เคยออกจากวัดป่าคำแคนเหนือสู่สังคมทางโลกอีกเลยตราบจนมรณภาพ
สมัยก่อนท่านธุดงค์บำเพ็ญเพียรที่หุบเขาต่างๆ เช่น ภูพาน ภูผาแดง ภูเม็งฯลฯ และตั้งสำนักสงฆ์ที่หุบเขาภูเม็ง แต่ด้วยอุบาสกอุบาสิกาที่ไปถือศีลเป็นไข้ป่า ท่านจึงตัดสินใจย้ายลงมาอยู่ที่เชิงเขาภูเม็ง ท่านก็ได้มาปักหลักสร้างวัดป่าคีรีวันอรัญเขต (วัดป่าคำแคนเหนือ) ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น และอยู่จำพรรษามาจนมรณภาพ
หลวงปู่มหาโส กัสสโป แห่งวัดคำแคนเหนือ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ไม่เคยพบกับหลวงปู่มั่นโดยตรง แต่ก็มีท่านเจ้าคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม) วัดป่าโพธิสมภรณ์ จ.อุดรธานี เป็นพระอาจารย์สอนกรรมฐาน และเป็นพระอุปัชฌาย์ผู้ญัตติเป็นธรรมยุตให้หลวงปู่ด้วย และท่านก็ยังมีท่านพระอาจารย์มหาสีทน กาญจโน พระวิปัสสนากรรมฐานผู้เป็นเสาหลักใหญ่ของจังหวัดขอนแก่นในขณะนั้น คอยสอนกรรมฐานให้หลวงปู่มหาโส เมื่อครั้งพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม พาหมู่คณะพระกรรมฐานมาจำพรรษาเพื่อเผยแผ่ธรรมะในจังหวัดขอนแก่น ระยะประมาณ พ.ศ.๒๔๗๒ -๒๔๗๕ พระอาจารย์มหาสีทน ก็ได้ฝากหลวงปู่มหาโส และ หลวงปู่สิงห์ สุขปุญโญ (พระวิจิตรธรรมภาณี) อดีตเจ้าคณะ จ.อุบลฯ เป็นศิษย์พระอาจารย์สิงห์ด้วย
หลวงปู่มหาโส เป็นพระเถราจารย์ชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดขอนแก่น มีพระฝากตัวเป็นศิษย์ผู้สืบทอดปฏิปทาจากท่านมากมาย เช่น หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น , เจ้าคุณพระธรรมดิลก (หลวงพ่อสมาน สุเมโธ) เจ้าคณะภาค ๙ ธรรมยุติ วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น , หลวงปู่เขี่ยม โสรโย อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าถ้ำขาม จ.สกลนคร , หลวงพ่อนงค์ ปคุโณ วัดอุดมคงคาคีรีเขต จ.ขอนแก่น , หลวงปู่สมาน ถาวโร เจ้าคณะ อ.มัญจาคีรี (ธรรมยุต) วัดป่าโนนสำนัก จ.ขอนแก่น ฯลฯ
หลวงปู่พระมหาโส กัสสโป มรณภาพ ที่กุฏิวัดป่าคำแคนเหนือ หมู่ ๒ ต.คำแคน อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ด้วยอาการชราภาพ เมื่อเวลา ๑๒.๒๐ น.ของวันที่ ๑๖ ก.พ.๒๕๕๙ สิริอายุ ๑๐๐ ปี ๓ เดือน ๘ วัน
โดยนายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ รองผวจ.ขอนแก่น พร้อมหัวหน้าส่วนราชการพ่อค้า ประชาชน และศิษยานุศิษย์ได้ร่วมเคลื่อนสรีระหลวงปู่โส จากกุฏิของท่านมาที่ศาลาเปรียญกัสสโปนุสรณ์ เพื่อทำพิธีถวายน้ำหลวงอาบศพ
พระสมุห์สุภชัย เทวสุโภ อายุ ๓๗ ปี พระอุปัฏฐากหลวงปู่โส กัสสโป เปิดเผยว่าหลังจากทางวัดและลูกศิษย์ ได้จัดงานครบรอบวันเกิด ๑๐๐ ปี ให้กับท่าน เมื่อ ๑๘ พ.ย. ๒๕๕๘ ที่ผ่านมาหลังจากนั้นประมาณ ๑ เดือน หลวงปู่โส ได้ล้มป่วยเพราะปอดติดเชื้อ จึงได้พาไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ ม.ขอนแก่น กระทั่งเมื่อวันที่ ๘ ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ออกจาก รพ.มาพักรักษาตัวอยู่ในกุฏิของท่าน กระทั่งเมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ.ที่ผ่านมา เกิดอาการเสลดติดคอหายใจไม่ออก กระทั่งเมื่อเวลา ๑๒.๐๐ น.วันที่ ๑๖ ก.พ. ท่านได้นอนหลับ เมื่อคณะแพทย์จาก รพ.ศรีนครินทร์มาตรวจก็บอกว่า หลวงปู่โส ได้ละสังขารไปอย่างสงบแล้ว
วัตถุมงคล
ที่จริงแล้วหลวงปู่ไม่เคยดำริให้สร้างวัตถุมงคลเลย แต่จะมีศิษยานุศิษย์ขออนุญาตจัดสร้างเพื่อหาทุนทรัพย์สร้างสาธารณะกุศล หลวงปู่ก็มีเมตตาให้จัดสร้างและอธิฐานจิตให้ โดยวัตถุมงคลที่หลวงปู่อธิฐานจิตให้ล้วนมีพุทธคุณวิเศษ มีประสบการณ์แก่ผู้บูชาทั้งสิ้น
กิจกรรมที่สำคัญเกี่ยวกับหลวงปู่
ทุกรอบปีจะศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศมาจัดงานมุทิตาจิตองค์หลวงปู่อยู่ทุกปี ที่สำคัญคือ
๑.ทุกวันที่ ๑๓-๑๕ เมษายน ทุกปี งานสรงน้ำหลวงปู่
๒.ทุกวันที่ ๘ พฤศจิกายน ทุกปี งานฉลองอายุวัฒนมงคล
โพสต์โดย น้ำดี๑ เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๐๑๐ ข้อความหมายเลข #๖
..สมัยผมเรียนพยาบาล ได้ไปฝึกทำคลอดที่ ศอ.๖ ขก. และไปพักที่วิทยาลัยพยาบาล ขก. (เก่า)..... ตอนกลางคืนนอนหลับ ผีแม่ลูกอ่อนเอาลูก ๒ ตนมาเล่นที่ใต้เตียงนอนประจำ..บางครั้งเด็กมันดื้อ มาทับที่หน้าอกผม....ตอนนั้นท่องคาถา ชินบัญชรได้ใหม่ๆ
....เรื่องทราบถึงคุณตาของผมที่เคยอุปัฏฐากพระธรรมดิลก (เจ้าคุณสมาน สุเมโธ ปธ.๙) เจ้าคณะภาค ๙ คุณตาเลยเล่าถวายท่านฟัง ท่านให้ตะกรุดหลวงปู่มหาโส กัสสโป มา ๑ อัน (เป็นตะกรุดที่ใช้แขวนที่เอว) ...................พอได้มาแล้ว เงียบสนิทเลย....ไม่เคยได้ยินหรือ ฝันเห็นผีแม่ลูกอ่อน มากวนอีกเลย......
โพสต์โดย Hercules เมื่อวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๐๑๒ ข้อความหมายเลข #๑๔
เคยพาภรรยา แม่ยาย ไปกราบหลวงปู่
ยังจำคำสอนของหลวงปู่ได้ ตอนที่ได้รับพระจากมือหลวงปู่
" ให้เชื่อตัวเองเป็นสำคัญ อย่ายึดติดในวัตถุมงคล หลวงปู่เป็นพระธรรมดาองค์หนึ่ง"
อย่าบอกทุกท่านว่า หลวงปู่เป็นพระอรหันต์เดินดิน ครับ
ในอดีตผมเป็นคนที่เชื่อในวัตถุมงคลมาก ผมอ่านหนังสือพระเกจิประมาณปี ๒๕๔๔
เห็นลงประวัติหลวงปู่ไว้. ผมอยากกราบหลวงปู่ จึงเดินทางไปที่วัดด้วยตนเองคนเดียวในครั้งแรก
เอาแลตตาซอยจำนวน ๒ packs ไปถวาย. จำได้ว่าขับรถเข้าวัดเวลาประมาณ ทุ่มเศษๆ
เห็นพระร่างเล็กนั่งอยู่ใต้ต้นไม้. เมื่อเห็นรถผมเข้ามา พระท่านลุกขึ้นกวักมือเรียกผมและยืนรอ
เมื่อผมลงจากรถ พระก็เดินพาผมไปที่กุฏิและปรารภว่า "มาทำวัตรเย็นด้วยกัน"
ผมเดินตามเข้าไปในกุฏิ ภาพที่เห็นคือมีพระและชีปะขาวนั่งรอประมาณ ๑๐ กว่าคนเพื่อรอทำวัตรเย็น
หน้าที่เข้าชม | 507,836 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 416,326 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |