หลักการอุทิศผลบุญรักษาโรค

หลักการอุทิศผลบุญรักษาโรค

การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม การทำจิตใจให้ผ่องแผ่ว

คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า

โรคบางอย่างเกิดจากกรรมเก่าที่เราเคยได้ทำไว้ ซึ่งกรรมไม่ดีที่เราเคยทำไว้กำลังส่งผล ทำให้เราเป็นทุกข์ เป็นโรคต่างๆ ตลอดทั้งนายเวรยังจองเวร ไม่ยอมอโหสิกรรม เราจึงต้องอุทิศผลบุญให้แก่นายเวรและเชื้อโรคทั้งหลายเพื่อให้เขาได้รับผลบุญแล้วเลิกจองเวรและอโหสิกรรมให้เรา ตลอดทั้งอุทิศผลบุญให้แก่เทวดาประจำตัวที่คอยดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองเรา รวมทั้งเทวดาที่รักษาโรคให้เราด้วย

การอุทิศบุญทำได้ 2 วิธี

ตอนที่เรากำลังทำบุญทำทาน ให้คิดอุทิศผลบุญทันทีว่า 

"บุญที่ข้าพเจ้าได้ทำนี้จงสำเร็จแก่ ........เมื่อท่านรับแล้วจง......."

ถ้าตอนนั้นเราไม่ได้ทำบุญทำทานอยู่ แต่เราสามารถเบิกบุญที่เราเคยทำมาในอดีต มาอุทิศผลบุญได้ โดยการตั้งจิตอุทิศผลบุญว่า 

"ขออำนาจ พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์ จงดลบันดาลผลบุญของข้าพเจ้า จงสำเร็จแก่ .... เมื่อท่านรับแล้วจง ...."

ในการอุทิศบุญเพื่อรักษาโรค หลวงพ่อสอนให้อุทิศให้เทวดาประจำตัว เทวดาที่ช่วยรักษาโรค นายเวรที่ทำให้เกิดโรคนั้น และเชื้อโรคบริเวณที่เป็นโรคนั้น

ในกรณีที่ผู้ป่วย ป่วยหนักไม่สามารถอุทิศผลบุญเองได้ สามีหรือภรรยา บุตร บิดามารดา และญาติ สามารถช่วยกันอุทิศบุญให้ได้ โดยอุทิศบุญให้ เทวดาประจำตัวผู้ป่วย เทวดาที่รักษาโรคให้ผู้ป่วย นายเวรของผู้ป่วยที่ก่อให้เกิดโรคนั้น

ในการอุทิศผลบุญรักษาโรคมีลำดับการอุทิศผลบุญด้วย คือ

อันดับแรกเราต้องอุทิศผลบุญให้แก่ เทวดาประจำตัวเราที่คอยดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองเรา รวมทั้งเทวดาที่รักษาโรคให้เราด้วย ให้ท่านได้รับผลบุญก่อน

อันดับที่สองอุทิศให้แก่นายเวรที่ทำให้เกิดโรคและเชื้อโรคบริเวณนั้น เมื่อเขารับผลบุญแล้วให้ออกไปจากร่างกายเรา และขอให้เขาอย่าจองเวร และอโหสิกรรมให้เรา