พญาไก่แดง

พญาไก่แดง ตอนที่ 1

พญาไก่แดงนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดารักษา เป็นของหาได้ยากยิ่ง ผู้มีวาสนาบารมีเท่านั้นถึงจะได้ครอบครองพญาไก่แดง อิทธิฤทธิ์และบุญญฤทธิ์ อานุภาพของพญาไก่แดง ผู้ใดมีครอบครองก็จะอุดมไปด้วยทรัพย์สินเงินทอง มีเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง สามารถกลับดวงชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดีได้คุ้มครองเหตุเพศภัยได้ และยังแคล้วคลาด

ปลอยภัยจากภยันตรายต่างๆ ได้อีกด้วย ป้องกันคุณไสยมนต์ดำสามารถบอกบนได้ตามต้องการ

พญาไก่แดงมีอาถรรพณ์มีความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเอง ถ้าทำพิธีอย่างถูกต้องจะเพิ่มความขลังความศักดิ์สิทธิ์เป็นทวีคุณ มีฤทธานุภาพมากมายสำหรับผู้ที่บูชาติดตัว

อัน "พญาไก่แดง" นี้เป็นของสูงยากยิ่งที่ปุถุชนทั้งหลายจะแสวงหามาครอบครองได้ เพราะเป็นสิ่งอันวิเศษที่มีองค์เทพคอยปกปักรักษา ผู้ใดมีไว้ครอบครองบูชาจะทำให้มั่งมีเงินทองลาภยศสรรเสริญ เจริญรุ่งเรื่อง ผมต้องขอกราบสักการะบูชาแด่ท่านพระครูนันทเจติยาภิบาล ที่ได้เมตตาถ่ายทอดสุดยอดวิชาพญาไก่แดงให้ การที่ผมได้นำเรื่องราวต่างๆ ของพญาไก่แดงมาเผยแพร่ก็เพราะว่ารู้ที่มาที่ไปของวิชานี้อย่างละเอียด อีกประการก็เนื่องจากมีการบิดเบือนข้อมูลในเรื่องของพญาไก่แดงกันอย่างมากมายจนสับสนไปหมดมาเป็น 10 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา

ปฐมแห่งกำเนิดของพญาไก่แดง

จากการเปิดเผยของท่านพระครูนันทเจติยาภิบาล ผู้ที่นำพญาไก่แดงออกมาเผยแพร่เปิดเผยว่าแหล่งกำเนิดของพญาไก่แดงนั้นอยู่ที่ประเทศพม่าเพียงแห่งเดียว พญาไก่แดงนั้นมีแหล่งกำเนิดที่พระธาตุอินทร์แขวน เมืองมัณฑเล ประเทศพม่า การจะไปอัญเชิญพญาไก่แดงมานั้นต้องเดินด้วยเท้าเพียงอย่างเดียวและต้องเดินข้ามเขาถึงสองลูก พญาไก่แดงนี้จะมีกลิ่นหอมมาก มีความศักดิ์สิทธิ์มากมีเทวดารักษา ต้องทำพิธีอย่างถูกต้องจึงจะอัญเชิญได้ มิฉะนั้นจะพบกับความวิบัติต่างๆ นานามีอันตรายมาก บรมครูของวิชาพญาไก่แดงคือท่านฤาษีสญาส่วยเหย่อท่านได้เมตตาถ่ายทอดให้กับท่านพระครูนันทเจติยาภิบาล ท่านฤาษีสญาส่วยเหย่อนี้เป็นผู้ที่ทรงฤทธิ์เป็นอย่างมาก ท่านบริโภคผลไม้เป็นอาหารเท่านั้น ตอนท่านพระครูๆ ไปเรียนวิชานี้ก็ยังได้เจอกับครูบาดวง วัดกู่ลายมือ อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ สมัยที่ครูบาดวงยังมีชีวิตอยู่ท่านได้ใช้พญาไก่แดงนี้แหละสงเคราะห์ช่วยเหลือญาติโยมที่ไปหาท่านมากมายจนโด่งดังไปทั่ว 

พิธีกรรมการอัญเชิญพญาไก่แดง

การอัญเชิญพญาไก่แดงนั้นมีวิธีการที่ซับซ้อนมากมายหลายขั้นตอน จะไปเอาเฉยๆ ไม่ได้เพราะมีเทพคอยรักษาอยู่ ถ้าทำไม่ถูกต้องผู้ที่ไปเอาพญาไก่แดงจะเกิดอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้ ผู้ที่จะไปอัญเชิญพญาไก่แดงนั้นต้องมีศีลที่บริสุทธิ์ และกินเจสามถึงเจ็ดวัน ต้องเตรียมฝ้ายบริสุทธิ์มาเก้าเส้นมามัดรวมกันไว้แล้วต้องหาจีวรของครูบาอาจารย์ที่ทรงศีลทรงธรรมมามัดตรงหัวท้ายของเส้นฝ้าย เวลาจะไปทำพิธีอัญเชิญพญาไก่แดง ต้องจัดตั้งขันธ์ขึ้นมาขันธ์นั้นจะประกอบไปด้วย กล้วยสาวหวี แตงโมหนึ่งลูก มะพร้าวน้ำลั่นหนึ่งลูก ข้าวเปลือกข้าวสาร ฉัตรห้าอัน ตุงห้าอัน เงินสามป๊าก ผ้าขาวรองพานกว้างหนึ่งศอกยาวสี่ศอก เมื่อทำขันธ์ตั้งและเตรียมของเรียบร้อยแล้วผู้ที่จะถือขันต้องนุ่งขาวห่มขาว ส่วนผู้ที่จะทำการอัญเชิญต้องไหว้สาขันเสียก่อนแล้วบอกกล่าวเจ้าป่าเจ้าเขา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาที่ปกปักรักษาพญาไก่แดงก่อนว่าท่านอนุญาตมั้ยถ้าอนุญาตก็ทำพิธีต่อได้ ถ้าไม่อนุญาตก็กลับเสียมิฉะนั้นอาจต้องวิกลจริตและถึงแก่ความตายได้ เมื่อเทวดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆที่รักษาพญาไก่แดงอนุญาตแล้วนั้นก็ให้เอาฝ้ายที่เตรียมไปมามัดที่ตัวเองด้านหนึ่งห้ามต่ำกว่าเอว ห้ามเลยคอ ส่วนอีกด้านหนึ่งให้มัดติดกับต้นไม้แล้วไต่หน้าผาลงไปอัญเชิญพญาไก่แดงขึ้นมาโดยเอาพานเงินและพานทองรองรับ หลังจากนั้นให้เอาผ้าขาวผ้าแดงมาคลุมมามัดด้วยสายสินญ์ในขณะมัดต้องร่ายพระเวทกำกับตลอดและห้ามผู้หญิงจับเด็ดขาดอันนี้เป็นข้อห้ามต้องระวัง จากนั้นให้จุดธูป 9 ดอก เพื่อทำการอัญเชิญบริวารของพญาไก่แดง ท่านพระครูๆบอกว่าตรงที่พญาไก่แดงและบริวารสถิตย์อยู่นั้นเจ้าที่เจ้าทางและเทวดาที่ปกปักรักษานั้นแรงมาก มีผู้เอาชีวิตไปทิ้งมาก็มากโขแล้วเนื่องจากศีลไม่บริสุทธิ์ เกิดความโลภต่างๆ หลังจากได้พญาไก่แดงมาแล้วต้องมาผสมกับบริวารที่อัญเชิญมาและต้องหาพญาไก่ขาวมาผสมลงไปเพื่อไม่ให้ฤทธิ์อำนาจของพญาไก่แดงเสื่อมไป

พญาไก่แดง ตอนที่ 2

พญาไก่แดงนั้นมีอยู่สี่อย่างด้วยกันคือ

1.พญาไก่แดงมีฤทธิ์ทางเสน่ห์อย่างรุนแรง อยู่มัณฑเล ประเทศพม่า

2.พญาไก่เหลืองมีฤทธิ์ทางร่มเย็นเป็นสุขอยู่ประเทศพม่า

3.พญาไก่ดำมีฤทธิ์ทางคงกระพันชาตรีอยู่ประเทศไทย

4.พญาไก่ขาวมีฤทธิ์ทางค้าขายโชคลาภอยู่ประเทศไทย

พญาไก่แดงทั้งสี่อย่างนั้นมีฤทธิ์มีเดชต่างกันมีสรรพคุณต่างกัน มีพิธีกรรมการอัญเชิญก็ต่างกันอีกด้วย พญาไก่แดงนั้นห้ามผสมกับอย่างอื่นผสมได้กับพญาไก่แดงขาวเพียงอย่างเดียว จึงจะทำให้มีฤทธิ์มีเดชมีอำนาจมากมายผู้ใดได้ทำการสักจุณเจิมหรือครอบครองบูชาก็เจริญรุ่งเรืองด้วยลาภยศทรัพย์สินเงินทองอย่างเอกอุและต้องปฎิบัติบูชาอย่างถูกต้องด้วย แต่ถ้าผู้ใดผิดข้อห้ามถือไม่ได้ก็จะพบกับความวิบัตินานาประการ

พญาไก่แดงสามารถบูชาได้หลายวิธีคือสักจุณเจิมต่างร่างกาย ทำเป็นวัตถุมงคลต่างๆ ทำเป็นองค์ธาตุบูชา มีข้อห้ามเหมือนกันหมดแต่ผู้ที่ทำการสักจุณเจิมตามร่างกายจะเห็นผลไวกว่าเท่านั้น ผู้ที่สักจุณเจิมลงตามร่างกาย ถ้ามีอาการคันตรงจุดที่สักล่ะก็ไม่เกิน 3-7 วันจะได้รับโชคลาภอย่างแน่นอน และถ้าผู้ใดมีดวงชะตาที่ตกต่ำ ทำมาหากินไม่ขึ้น หากินติดๆขัดๆ ถ้าได้สักจุณเจิมพญาไก่แดงไปแล้วขอรับรองว่าดวงชะตาจะพลิกฟื้นได้เร็วมากส่วนใหญ่ไม่เกิน 3-7 วันจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นแน่นอน ถ้าพวกที่ประกอบการค้าขาย ทำธุระกิจส่วนตัวจะเห็นผลชัดเจนและไวมาก

พญาไก่แดง ตอนที่ 3 

พญาไก่แดงนั้นจะมีสีแดงดั่งเลือดแต่มีกลิ่นหอมมาก แค่ได้พกติดตัวก็ทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองในด้านทรัพย์สินเงินทอง มั่งมีศรีสุข มีโชคลาภ เจริญในหน้าที่การงาน ป้องกันคุณไสย แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตราย พญาไก่แดงสามารถนำมาบูชาได้ 2 วิธีคือ 1.การสักจุณเจิมลงบนร่างกาย 2.การทำเป็นวัตถุมงคล ทั้ง 2 อย่างนี้ถือข้อห้ามเหมือนกัน ถ้าผู้ใดถือได้จะสามารถพลิกฟื้นดวงชะตาที่ตกต่ำได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าผู้ใดทำผิดข้อห้ามก็จะย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิมต้องมาทำพิธีขอขมาต่อหน้าอาจารย์ผู้ทำการสักให้โดยเฉพาะจึงจะแก้ได้ และการผิดสัจจะห้ามเกิน 3 ครั้ง ถ้าเกินก็แก้ไม่ได้ตลอดชีวิต หลายรายที่ผมได้ทำการสักจุณเจิมไก่แดงไปให้ก็ได้รับประสบการณ์ปาฏิหาริย์กันทุกคน และไม่มีตกต่ำถ้าถือข้อห้ามได้แต่ผมก็ไม่ได้สักจุณเจิมให้ใครมากนักเพราะผู้คนสมัยนี้ไม่ค่อยรักษาสัจจะ ไม่มีเวลาบ้าง ถือข้อห้ามไม่ได้บ้าง ชอบแต่ของฟรีบ้างก็ว่ากันไป คนเราในสมัยนี้มันแปลกอยากได้ของดีอยากรวยมีเงินมีทองแต่ไม่อยากปฏิบัติ จะเอาอย่างเดียว บางคนก็เคารพต่อหน้า พอลับหลังทำตัวอีกอย่างอะไรที่สั่งห้ามมันทำทุกอย่างผิดทุกอย่างแล้วจะไปดีได้อย่างไร 

ก่อนที่จะทำการสักจุณเจิมพญาไก่แดงนั้นทุกคนต้องทำการอาบน้ำมนต์เพื่อขับไล่เสนียดจัญไรให้ออกไปเสียก่อน จึงจะทำการสักจุณเจิมพญาไก่แดงได้ การสักก็ต้องมีขันธ์ตั้งหรือขันธ์ครูและบอกข้อห้าม(ขันธ์ครูและข้อห้ามจะไม่กล่าวถึงในที่นี้เพราะมันมีการแอบอ้างและมั่วนิ่มกันมาแต่ปี 2545 แล้ว ปล่อยให้ไอ้พวกที่ไม่รู้จริงมันมั่วต่อไปสักวันกรรมเข้าตัวมันคงสำนึกได้) การสักพญาไก่แดงมันมีเคล็ดว่าต้องสักออกหรือสักเข้า ผู้หญิงสักยังไง ผู้ชายสักยังไง ไม่ใช่คิดจะสักก็สักไปเรื่อยแบบผิดๆ สาเหตุที่ผู้ที่ทำการสักพญาไก่แดงไปแล้วดวงชะตาดีขึ้นไวเพราะพญาไก่แดงมีเทพรักษาถึง 2 องค์เป็นเทพที่มีฤทธิ์มากและมีบริวารคอยช่วยอีก ผู้ที่สักพญาไก่แดงไปแล้วเวลาจะให้องค์เทพไก่แดงช่วยเหลืออะไรให้จุดธูป 5 ดอก บอกกล่าวท่านให้รับรู้ท่านก็จะช่วยเหลือเราในสิ่งนั้นในเรื่องนั้นให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ตราบใดที่เรายึดถือสัจจะและข้อห้ามได้ไม่บกพร่อง ตลอดระยะเวลาสิบกว่าปีมานี้ผมเห็นแต่ล่ะคนแต่ล่ะสำนักก็สักไก่แดงกันมากมายไปหมด ทำน้ามันพรายใส่ไก่แดง ทำอะไรต่อมิอะไรแต่ใส่ไก่แดง มันบ้ากันไปแล้ว ไก่แดงท่านเป็นเทพ น้ำมันพรายเป็นผี เทพกับผีมันจะอยู่ด้วยกันมีที่ไหนคิดได้ไง ทำไปได้ บางอาจารย์มันบอกต้องเชือดคอไก่เป็นๆ เอาเลือดไก่ที่เชือดสดๆ นั้นไปสาดไปโยนใส่ต้นว่านไก่แดงจึงศักดิ์สิทธิ์ บางคนได้แค่เศษน้ำมันไก่แดงที่เหลือๆ จากพระที่สันกำแพง(ที่เขาไม่ใช่กัน)ก็นึกว่าเป็นของดีของวิเศษ ต่างก็นำมาสักให้ลูกศิษย์ตัวเองที่ดวงชะตาตกต่ำจนดีขึ้นจนส่งผลให้ตัวเองโด่งดังก็หลายคน จะบอกอะไรให้น่ะครับผู้ที่ทำน้ำมันพญาไก่แดงและสีผึ้งพญาไก่แดงเป็นคนแรกและครั้งแรกน่ะคือตัวผมครับทำเมื่อวันพญาวันปี 2545 สำคัญการสักพญาไก่แดงนั้นต้องมีการสักเพิ่มยาสูตรเข้าไปเพิ่มยาสุตองเข้าไปไม่ใช่สักไก่แดงอย่างเดียวเหมือนที่พวกรู้ไม่จริงทำกันเกร่อจนถึงทุกวันนี้ ทุกท่านลองคิดดูน่ะแค่พญาไก่แดงตัวเดียวก็ยังทำให้เราดีขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ถ้าลองได้สักยาสี่สูตรกับยาสุตองเพิ่มไปด้วยจะดีมากขนาดไหนเอาไปคิดกันดูน่ะครับ

สรุปง่ายๆ ครับ พุทธคุณของพญาไก่แดงนั้นมากมายสุดที่จะพรรณนาบอกกล่าวได้หมดสิ้นเป็นทั้งเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ คนรักคนหลง ค้าขายดี เจริญรุ่งเรือง มีโชคมีลาภมีเงินมีทอง เสริมดวง ค้ำดวงชะตา กันคุณผีคุณคน มีลาภยศ สรรเสริญ บนบอกได้ตามต้องการ 

ข้อห้าม 1.ห้ามผิดลูกผิดเมีย 2.ห้ามกินเนื้อวัว เนื้อควาย 3.ห้ามกินเหล้า