พระอรหันต์มีหลายประเภท
พระอรหันต์ บางทีเรียกว่า พระขีณาสพ บางทีเรียกว่า อเสกขบุคคลที่เรียกว่าพระอรหันต์หมายความว่าเป็นบุคคล ที่ควรสักการะบูชายิ่ง ที่เรียกว่าพระขีณาสพหมายความว่าเป็นบุคคลที่สิ้นอาสวกิเลสโดยสิ้นเชิงแล้ว และที่เรียกว่า พระอเสกขบุคคลนั้นหมายถึงว่า เป็นผู้ที่ไม่ต้องศึกษาต่อไปอีกแล้ว เพราะมีศีลสิกขา สมาธิสิกขา ปัญญาสิกขา โดยบริบูรณ์ บริสุทธิ์แล้ว พระอรหันต์นี้จัดได้ว่ามี ๓ ประเภท คือ
๑. พระอรหันต์ที่ตรัสรู้ อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ด้วยพระองค์เอง และสามารถโปรดเวไนยสัตว์ให้พ้นทุกข์ คือ ให้ถึงอริยมัคคอริยผลได้ด้วย เพราะทรงเป็นผู้ที่ถึงพร้อมด้วย อาสยานุสยญาณ ญาณที่สามารถรู้อัธยาศัยของเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ประการหนึ่ง อินทริยปโรปริยัตติญาณ ญาณที่สามารถรู้อินทรีย์ของสัตว์ทั้งหลายว่ายิ่งหรือหย่อนเพียงใด ประการหนึ่ง และ สัพพัญญุตตญาณ ญาณที่สามารถรอบรู้สิ้นซึ่งปวงสังขตธรรมและอสังขตธรรมอีกประการหนึ่งจึงได้ ชื่อว่าพระสัพพัญญูพุทธเจ้า คือที่ขนานพระนามกันว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
๒. พระอรหันต์ที่ตรัสรู้ด้วยพระองค์เองเหมือนกัน แต่ไม่สามารถโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้ เพราะไม่ถึงพร้อมด้วยญาณ ๓ ประการ ดังกล่าวแล้วในข้อ ๑ นั้น พระอรหันต์ประเภทนี้ได้ชื่อว่า พระอรหันต์ปัจเจกพุทธเจ้า หรือ พระปัจเจกพุทธเจ้า
อยากจะกล่าวโดย อัตโนมัติว่า ที่พระปัจเจกพุทธเจ้าไม่สามารถโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์ได้นั้นเป็นด้วยเหตุอีกประการ หนึ่ง คือ ในยุคนั้นไม่มีผู้มีบารมีแก่กล้าพอที่จะเข้าถึงธรรมอันประเสริฐถึงชั้นนั้น ได้ เพราะพระปัจเจกพุทธเจ้าบังเกิดมีได้เฉพาะใน ยุคที่ว่างพระพุทธศาสนาเท่านั้น ก็ในกาลที่ว่างพระพุทธศาสนาเช่นนั้น บุคคลทั้งหลายย่อมปราศจากศีลธรรมประกอบแต่กรรม อันเป็นอกุศล ใครเล่าจะสามารถสั่งสอนผู้ที่ไร้ศีลธรรมให้บรรลุถึงธรรมอันประเสริฐยิ่งปาน นั้นได้ แม้แต่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงพระมหากรุณาได้เฉพาะผู้ที่ทรงโปรดได้ เท่านั้น ไม่ใช่โปรดได้ทั่วไปทั้งหมด
๓. พระอรหันต์ที่ตรัสรู้อรหัตตมัคคอรหัตตผลตามคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ( คือไม่ได้ตรัสรู้เอง ) นั้น ได้ชื่อว่า พระอรหันต์ ได้แก่ พระอรหันต์ ได้แก่ พระอรหันต์ทั่วๆ ไป ที่นอกจากพระอรหันต สัมมาสัมพุทธเจ้า และ พระอรหันตปัจเจกพุทธเจ้า
พระอรหันต์ทั่วๆ ไปนี้ยังจำแนกได้เป็น ๒ ประเภท คือ ปัญญาวิมุตติ และ เจโตวิมุตติ
ปัญญาวิมุตติ หมายถึงพระอรหันต์ผู้ไม่ได้ฌานเลย กล่าวคือไม่ได้เจริญสมถภาวนาไม่ได้ทำฌาน เป็นแต่เจริญวิปัสสนาภาวนาแต่อย่างเดียวจนบรรลุอรหัตตมัคคอรหัตตผล พระอรหันต์ผู้ที่ไม่ได้ฌานนี้เรียกว่า สุกขวิปัสสก พระอรหันต์สำหรับ เจโตวิมุตติ หมายถึงพระอรหันต์ผู้ที่ได้ฌานด้วย ( ผู้ที่ได้ฌานเรียกว่า ฌานลาภีบุคคล )
การได้ฌานก็สามารถได้มาด้วย ๒ ประการ คือ
ก. เป็นผู้เจริญสมถภาวนาจนได้ฌาน เช่นนี้เรียกว่า ปฏิปทาสิทธิฌาน ได้ฌานด้วยการปฏิบัติ แล้วก็มาเจริญวิปัสสนา ภาวนาตามลำดับ จนบรรลุพระอรหันต์
(ข้อนี้หมายถึง ได้ฌานก่อนแล้วมาวิปัสสนา)
ข. เป็นผู้ที่แม้จะไม่ได้เจริญสมถภาวนามาก่อนก็ตาม แต่ว่าเมื่อได้เจริญวิปัสสนาภาวนามาตามลำดับจนบรรลุอรหัตตมัคค อรหัตตผล ด้วยผลแห่งบุญญาธิการแต่ปางก่อน เมื่อบรรลุอรหัตตผล ก็ถึงพร้อมซึ่งฌานด้วยเช่นนี้เรียกว่า มัคคสิทธิฌาน ได้ฌานด้วยอำนาจแห่งมัคค จนถึงได้อภิญญาด้วยก็มี เช่น พระจุฬปัณถก เมือสำเร็จเป็นพระอรหันต์ก็มีอภิญญา ด้วยคือมีอิทธิฤทธิถึงสำแดงปาฏิหารย์ เป็นพระภิกษุหลายรูปจนเต็มพระเชตวัน
(ในข้อนี้เป็นการแสดงถึงพระอรหันต์ที่ไม่ได้ฌานมาก่อน แต่ในเวลาที่ท่านบรรลุสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว ก็ได้ฌานเสริมมาด้วยทันที)
รวมความว่า
พระอรหันต์ประเภท ปัญญาวิมุตติ ไมได้ฌานด้วยเรียกว่า สุกขวิปัสสกพระอรหันต์
พระอรหันต์ประเภท เจโตวิมุตติ นั้นเป็นผู้ได้ฌานด้วย เรียกว่า พระอรหันตฌานลาภีบุคคล
พระอรหันต์ผู้เป็นฌานลาภีบุคคลนั้น ได้ฌานจนถึงได้อภิญญาด้วยก็มี ได้ฌานก็จริงแต่ไม่ถึงได้อภิญญาด้วยก็มี
ฌานลาภีอรหัตตบุคคล นั้นที่ได้ถึงอภิญญาด้วยนั้น บางองค์ก็ได้เพียง อภิญญา ๓
บางองค์ก็ได้ถึง อภิญญา ๖
อภิญญา ๓ หรือบางทีก็เรียกว่า วิชา ๓ นั้นได้แก่
( ๑ ) ปุพเพนิวาสนุสติญาณ ระลึกชาติได้
( ๒ ) ทิพพจักขุญาณ หรือ จุตูปปาตญาณ ตาทิพย์ รู้จุติและปฏิสนธิของสัตว์ทั้งหลาย
( ๓ ) อาสวักขยญาณ รู้วิชาที่ทำให้สิ้นกิเลสและอาสวะ
เฉพาะ อภิญญาข้อ ๓ นี้ จะเป็นสุกขวิปัสสกพระอรหันต์ก็ตาม หรือฌานลาภีอรหัตตบุคคลได้ถึงอภิญญาด้วยหรือไม่ก็ตาม ต้องมีอภิญญาข้อ ๓ นี้ด้วยทุกๆ องค์
อภิญญา ๖ หรือบางทีก็เรียกว่า วิชา ๖ นั้น คือวิชา ๓ นั่นเอง และเพิ่มขึ้นอีก ๓ คือ
( ๔ ) ปรจิตตวิชานน หรือ เจโตปริยญาณ รู้จิตใจผู้อื่น
( ๕ ) ทิพพโสตญาณ หูทิพย์
( ๖ ) อิทธิวิธี สำแดงฤทธิ์ได้
http://bundit.info/aphidhamma/prariset1.html
http://www.pantip.com/…/religi…/topic/Y5017921/Y5017921.html
http://www.buddhakhun.org/main//index.php?topic=1485.0
หน้าที่เข้าชม | 507,836 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 416,326 ครั้ง |
เปิดร้าน | 4 พ.ค. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 7 ก.ย. 2568 |