ดวง

ดวง

ดวงชะตาของคนมีหลายประเภท ทั้งดีทั้งราย ปนกัน ไม่มีดวงใครจะดีอย่างเดียว หรือเสียอย่างเดียว เว้นแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น นอกนั้น ล้วนคละเคล้ากันไป ช่วงหนึ่งดี สุด ๆ อีกช่วงหนึ่งก็แย่สุด ๆ ใครทีดีสุด ๆ ก็ต้องเตรียมตัวได้ เลย ว่าต้องตกลงไปแย่ ใครที่ดวงกำลังแย่ ก็ย่อมมีดวงที่อย่กว่าเราอีก อย่างน้อยก็มีเหมือน ๆ กัน แต่สักวันดวงก็ต้องย่อมขึ้นไปดีกว่าเดิม อยํ่แล้ว เพียงแต่รอเวลาเท่านั้น

ดวง มาจากดวงดาว ดาวในชะตาที่สุดผลต่อชีวิตของคนที่ยังมีกิเลสอยู่ ดวงไม่มีผลกับพระอริยะ หรือมีก็มีน้อย ดวงมีผลลดลงเมื่อผู้นั้นเข้าสูทางการปฏิบัติ ไม่ว่าเป็นเชื้อชาติ ศาสนาใดก็ตาม เป็นไปตามหลักสากลจักรวาล

ดวงเป็นวิชาที่ว่าด้วยพลังงานของจักรวาลที่ผู้นคที่อยู่ภายใต้จักรวาล ภายใต้การโคจรของดวงดาว โดยใช้ดาวใหญ่ เป็นหลักทีแสงของดาวส่งกระทบกับเจ้าชะตา ทำให้ชะตามีผลทางอารมณ์ ความรู้สึก นึกคิด ปัญหาอารมณ์สังคมนิสัย เป็นไปตามแสงแห่งดวงดาวที่ส่งมาที่เจ้าชะตา

ดวงชะตา ที่พอแยกออกเป็นสังเขป ใหญ่ ๆ ดังนี้

- ดวงเศรษฐี 

- ดวงยาจก

- ดวงนักบวช นักพรต ฤาษี แม่ชี พระ คนสมถะ

- ดวงพ่อค้า ดวงทหาร ดวงตำรวจ ดวงครู เรียกว่าตามสายอาชีพ

- ดวงกินผัว กินเมีย กินลูก

- ดวงลูกผลาญทรัพย์

- ดวงลูกอุปถัมถ์

- ดวงเจ้าชู้

- ดวงมัวเมา

- ดวงโจร

- ดวงคนกลางคืน

- ดวงกรรมกร คนใช้แรงงาน

- ดวงจิตอาสา สังคมสงเคราะห์

- ดวงช่ำรัก

สิ่งเหล่านี้ ใครเป็นคนกำหนด ก็มาจากการกระทำของเราเองในอดีต นิสัยใจคอของเราเองในอดีต บาป บุญที่สร้างมาในภพชาติก่อน ๆ ดางชะตา ตามพื้นดวงไม่สามารถแก้ไขได้ แต่สามารถผ่อนหนักเป็นเบาได้ ด้วยการปฏิบัติธรรม เข้าใจหลักของพลังงานที่มากระทบกับกายสังขาร กระทบกับจิตวิญญาณ ตัวรู้ การฝึกสติ เป็นแนวทางที่ดีที่สุด ในการรับกับชะตาชีวิตที่เป็นอยู่ การยอมรับ และเรียนรู้ หาแนวทางแก้ไข

ชะตาฟ้า (ที่เราเป็นคนลิขิตเองมาแต่ชาติก่อน) ชะตาดิน สิ่งเหล่านี้ แก้ไขไม่ได้ แต่ชะตาตน เราลิขิตเองได้ ว่าจะให้มันยิ่งเลวลงไป หรือจะุฉุดชะตาที่เหลือใด้ดีขึ้นมาด้วยน้ำมือเรา